Do one thing, do it best...

>>

ศัลยกรรมตกแต่ง

<< Up ] ข้อบ่งชี้ ] การเตรียมตัว ] [ เทคนิค ] ผลลัพธ์ ] ปัญหา ] ค่าใช้จ่าย ]
 

หัวข้อย่อย

 
 

 
 

ค้นหาอย่างเร็ว

 

 

สมาคมศัลยแพทย์ตกแต่งและเสริมสร้างแห่งประเทศไทย

SiamMedic - Medical information and technology

สัญญลักษณ์ของ PLink

Sanook.com

 

 

 

การดูดไขมัน

เทคนิคการผ่าตัด

 ณ เวลานี้ การแพทย์พัฒนาไปมาก มีเทคนิคการดูดไขมันหลายอย่าง ส่วนใหญ่ไม่ทราบจะแปลเป็นไทยอย่างไรจึงจะเหมาะ เลยขอใช้ภาษาต่างประเทศไปเลย

เทคนิคการดูด

Suction-assisted lipectomy (SAL, การดูดไขมันด้วยท่อธรรมดา)

วิธีนี้เป็นเทคนิคดั้งเดิมแรกสุดซึ่งยังคงเป็นที่นิยมมากที่สุด คือใช้ท่อกลวงยาว สอดผ่านแผลเล็กๆที่แพทย์จะเจาะซ่อนไว้ตามรอยพับของร่างกาย เช่น สะดือ หัวเหน่า ข้อพับ ร่องก้น   ปลายท่อจะมีรูอย่างน้อยหนึ่งรู โคนท่อต่อกับสายยางซึ่งเชื่อมกับเครื่องดูดแรงสูง

ท่อสำหรับดูดไขมัน
ท่อสำหรับดูดไขมัน ปัจจุบันมีผลิตมาหลายขนาด ปลายท่อมีหลายแบบ

เมื่อสอดเข้าไปได้ที่ แพทย์ก็เปิดเครื่องดูด แล้วดูดเอาไขมันออก มากน้อยตามแต่จะวางแผนไว้

Ultrasound-assisted liposuction (UAL, การดูดไขมันด้วยอัลตราซาวน์)

ปัจจุบันมีการประยุกต์เอาความรู้ด้านคลื่นเสียงมาใช้ แทนที่จะแค่สอดท่อกลวงแล้วดูด มีการผลิตเครื่องที่สร้างสัญญาณเสียงส่งผ่านไปที่ปลายท่อยาว เมื่อปลายท่อเข้าไปอยู่ในชั้นใต้ผิวหนัง คลื่นเสียงที่ส่งไปก็จะไปกระทบกับเซลผิวหนัง กลไกตรงนี้ยังไม่รู้แน่ชัด แต่พบว่าสามารถทำให้เซลไขมันแตกสลาย  ท่อนั้นก็จัดการดูดเอาไขมันที่แตกออกมาไปจากร่างกายเสีย  วิธีนี้เรียกว่า "Internal UAL"

อีกแบบหนึ่งคือ "External UAL" ใช้เครื่องสร้างสัญญาณเสียงในลักษณะเดียวกัน แต่ส่งผ่านผิวหนังจากทางด้านนอก ไม่ต้องสอดใส่เข้าไปใต้ชั้นผิวหนัง จากนั้นจึงค่อยสอดท่อกลวงเข้าไปในชั้นใต้ผิวหนังดูดออกแบบเดียวกับ SAL

ข้อดี คือ
- เป็นการเลือกทำลายแต่เฉพาะเซลไขมัน ไม่ทำลายเนื้อเยื่อชนิดอื่น เสียเลือดน้อยกว่าวิธีอื่น
- แพทย์ใช้แรงลดลงในการดูดเอาไขมันออก
- แพทย์บางท่านพบว่าทำให้ผิวหนังมีการหดรัดตัว (เสมือนว่าเต่งตึงมากขึ้น) มากกว่าวิธีอื่น

ข้อเสีย คือ
- อุปกรณ์มากหลายชิ้น และราคาแพงมาก มากกว่าหนึ่งล้านบาท การเตรียมห้องผ่าตัดก็ยุ่งยากตามไปด้วย (นั่นหมายความว่า ค่าห้องผ่าตัดก็อาจจะแพงขึ้นไปอีก)
- คลื่นเสียงไม่ได้มีแต่ผลดี มันทำให้เกิดความร้อนขึ้นรอบๆท่อที่ส่งคลื่นเสียง ดังนั้นอาจทำให้ผิวหนังอุณหภูมิสูงจนเป็นอันตรายได้ อันนี้พบได้บ่อยๆในผู้ใช้ที่ยังไม่ชำนาญ  แม้ว่าจะมีการผลิตท่อดูดรุ่นใหม่ๆที่พยายามลดการสัมผัสของผิวหนังโดยตรงกับตัวท่อ โอกาสเกิดอันตรายต่อผิวหนังก็ไม่ได้หมดไป
- ขนาดของท่อดูดที่ใช้อัลตราซาวน์มักมีขนาดใหญ่กว่าท่อดูดธรรมดา เพราะต้องมีทั้งอุปกรณ์ส่งคลื่นเสียงไปที่ปลายท่อ และวัสดุรอบท่อซึ่งคอยป้องกันไม่ให้ความร้อนไปทำอันตรายผิวหนัง  แผลทางเข้าของท่อจึงจะใหญ่ตามไปด้วย
- มีโอกาสเกิดการคั่งของน้ำเหลืองหลังผ่าตัดได้สูงกว่าวิธีอื่น สาเหตุอาจเป็นเพราะเกิดกรดไขมันอิสระที่มีความระคายเคืองจากการที่เซลไขมันแตกออกมา
- วิธีการทำ ต้องมีขั้นตอนต่างๆไม่ตรงไปตรงมาเหมือนวิธีอื่น
- แพทย์ที่จะทำวิธีนี้ได้ต้องผ่านการฝึกอบรมมาเป็นพิเศษ เพื่อให้ได้ผลดีและไม่เกิดภาวะแทรกซ้อน

Power-assisted liposuction (PAL)

วิธีนี้เป็นวิทยาการล่าสุด โดยใช้หลักการพื้นฐานแบบ SAL แต่ตัวท่อมีความพิเศษ คือ ที่ปลายท่อจะมีสั่นเข้าออกด้วยมอเตอร์ช่วยในการดูดไขมัน ทำให้แพทย์ใช้แรงน้อยลง การผ่าตัดทำได้เร็วขึ้น

Power-assisted liposuction devices
เครื่องมือ Medtronic จำหน่ายโดยบริษัท Xomed 
สังเกตรูปเล็กสี่น้ำเงิน แสดงการสั่นเข้าออกของปลายท่อ

ข้อเสีย คือ เครื่องมือมีราคาแพงมาก เราต้องนำเข้าจากต่างประเทศ  ทั้งยังเกิดเสียงดังกว่าวิธีอื่นๆจากการทำงานของมอเตอร์ แม้ว่าขณะนี้หลายบริษัทได้ผลิตเครื่องที่มีเสียงเบาลงกว่าเดิมมาก

ไม่ว่าจะใช้วิธีดูดแบบใด ผลที่ได้รับจะดีก็ต่อเมื่อผิวหนังบริเวณนั้นยังมีคุณภาพดีพอที่จะหดรัดตัวเองให้รับกับชั้นไขมันที่หายไป ความหนาของผิวหนังที่เล็กลงก็ต้องมีความราบเรียบเป็นธรรมชาติด้วย  ศัลยแพทย์จะอาศัยผ้าหรือยางยืดลักษณะต่างๆพันรัดอวัยวะส่วนที่ดูดตั้งแต่ดูดไขมันเสร็จใหม่ๆไปจนหลังทำเป็นระยะเวลาหนึ่ง เพื่อให้ผิวหนังเหนือชั้นที่ถูกดูดไขมันไปได้ยึดติดกับชั้นใต้ผิวหนังอย่างดี

การเตรียมบริเวณที่จะดูด ระยะเวลาที่ใช้ / กลับไปด้านบนสุด

เทคนิคการดูด
การเตรียมผิวหนัง
ระยะเวลาที่ใช้
 

horizontal line

Home ] Up ] ข้อบ่งชี้ ] การเตรียมตัว ] [ เทคนิค ] ผลลัพธ์ ] ปัญหา ] ค่าใช้จ่าย ]

ผลิตโดย DrNond@hotmail.com
แก้ไขครั้งสุดท้าย: 10/10/43