>>

ศัลยกรรมตกแต่ง

หัวข้อย่อย

ค้นหาอย่างเร็ว

ชนิดของวัสดุสังเคราะห์ที่ใส่เข้าไปในร่างกาย

Implant types

	ไม่มีปฏิกิริยาต่อต้านจากร่างกาย
	ไม่เปลี่ยนแปลงสภาพโดยไม่คาดหมาย
	ไม่ก่อให้เกิดมะเร็ง
	ไม่ก่อให้เกิดการแพ้
	สามารถปรับเปลี่ยนรูปร่างได้โดยง่าย
	สามารถนำไปทำให้ปราศจากเชื้อโรคก่อนนำไปใช้ได้ โดยไม่เสียหาย

ณ เวลานี้ เรายังไม่ได้วัสดุสังเคราะห์ที่ว่า แต่ใกล้เข้าไปทุกที  ลองมาพิจารณาคุณสมบัติของวัสดุสังเคราะห์ที่มีใช้กันในปัจจุบัน

1. การสลายตัว (resorbability) - เป็นความสำเร็จก้าวสำคัญ ซึ่งทำให้เราสามารถใส่วัสดุสังเคราะห์เข้าไปในร่างกายเพื่อประโยชน์บางอย่าง จนหมดหน้าที่แล้ว วัสดุนั้นก็ถูกสลายหายไป ตัวอย่างเช่น polyglycolic acid ที่ใช้ทำไหมเย็บทางการแพทย์ชนิดละลาย
2. สถานะรูปร่าง (เป็นแท่งหรือของเหลว) - วัสดุบางอย่างมีสถานะเป็นของแข็งเท่านั้น บางอย่างเป็นของเหลวเท่านั้น วัสดุบางอย่างสามารถทำให้เปลี่ยนสถานะได้ เช่น ซิลิโคน ทำให้มีประโยชน์ใช้สอยมากหลายขึ้น  วัสดุที่มาเป็นแท่งสามารถปรับเปลี่ยนรูปร่างได้ บางอย่างทำมาเป็นแผ่นสามารถพับหรือซ้อนหลายชั้น ส่วนของเหลวต้องบรรจุอยู่ในสิ่งห่อหุ้มอีกชั้นหนึ่ง เช่น เต้านมเทียมบางชนิด (เปลือกเป็นซิลิโคน บรรจุไว้ด้วยซิลิโคนเหลว)
3. ความแข็ง - มีผลต่อการนำไปใช้งาน เช่น ถ้าเสริมจมูกด้วยวัสดุแข็งมาก ก็ได้รูปตามต้องการดี แต่อาจดูไม่ธรรมชาติ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อสัมผัส นอกจากนี้วัสดุที่แข็งมากจะกดดันให้อวัยวะที่วางรองอยู่บางลงได้มากกว่า  ทั้งยังยากที่แพทย์จะปรับเปลี่ยนรูปร่างให้ได้ตามต้องการ
4. ปฏิกิริยาต่อต้านจากร่างกาย - วัสดุใดก็ตามที่ถูกต่อต้านจากร่างกาย (rejection) ถือว่าไม่มีที่ใช้ในทางการแพทย์และไม่ควรใส่เข้าไปภายในร่างกาย อย่างไรก็ตาม ด้วยความเจริญในปัจจุบัน เรายังคงไม่มีวัสดุใดที่ร่างกายไม่มีปฏิกิริยาตอบสนองเลย เพียงแต่จะมากหรือน้อยเท่านั้นเอง อาจจะน้อยมากเป็นเพียงแค่ขบวนการอักเสบในระดับเซล ไปจนถึงการสร้างเนื้อเยื่อเป็นเปลือกหุ้มวัสดุนั้นไว้
5. การมีรูพรุน - เพื่อให้เนื้อเยื่อร่างกายเจริญแทรกเข้าไป โดยหวังให้วัสดุนั้นผสมผสานไปกับเนื้อเยื่อคนเรา ไม่มีการเลื่อนที่ แต่ในขณะเดียวกัน ก็มีข้อเสียคือ รูพรุนในเนื้ออาจกลายเป็นที่หลบซ่อนอย่างดีของเชื้อโรค
6. คุณภาพการผลิต - ผู้ผลิตจะต้องมีขบวนการเฉพาะในการผลิต เพื่อให้มีความบริสุทธิ์สูง ไม่มีสิ่งเจือปน และได้คุณสมบัติอื่นๆข้างต้นที่เหมาะจะนำมาใช้คน (medical grade)

ตอนนี้ ขอยกตัวอย่างวัสดุสังเคราะห์ที่น่าสนใจบางอัน

• ซิลิโคน (silicone) - เป็นวัสดุที่ใช้กันมานานมากที่สุด ปฏิกิริยาต่อต้านจากร่างกายบ้างแต่น้อยมากๆ มีความคงตัวสูง มีหลายสถานะทั้งของเหลว เยล ยางนุ่ม จนถึงแข็ง ผู้ผลิตออกมาเป็นยางรายแรกของโลก คือ บริษัท Dow Corning ในอเมริกา ใช้ชื่อการค้าว่า "Silastic"  ซิลิโคนนี่แหละที่เป็นเนื้อถุงเต้านมเทียม โดยมีซิลิโคนเยลบรรจุอยู่ภายใน  ที่เสริมจมูกกันในบ้านเราก็ซิลิโคนแท่ง  ที่ชอบฉีดใบหน้าแก้รอยตีนกา เสริมส่วนต่างๆ ก็ซิลิโคนเหลว (วิธีนี้อันตราย)
• โพลี่เอไมด์ (polyamide) - หรือที่เรียกกันว่า ไนลอน (nylon) เป็นวัสดุที่จะว่าไม่ละลายก็ไม่เชิง เพราะคงอยู่ในร่างกายได้นาน แต่ก็ถูกทำลายได้บ้าง  บริษัท Ethicon, Inc.ของอเมริกา นำมาผลิตเป็นแผ่นใยสาน ภายใต้ชื่อการค้า "Supramid"
• โพลี่เอทิลีน (polyethylene) - เป็นพวกโพลีเอสเตอร์ (polyester) นำมาใช้ในคน ภายใต้ชื่อการค้า "Dacron" (บริษัท Du Pont) และ "Mersilene" (บริษัท Ethicon) ซึ่งเป็นแผ่นใยทอ ในรูปเป็นแท่งแข็งมีรูพรุน เรียก "Medpore"  นิยมใช้กันมากในวงการแพทย์
• พี.ที.เอฟ.อี. (PTFE, polytetrafluoroethylene) - มีความคงทนสูงมาก ปฏิกิริยาจากร่างกายน้อยมากๆๆๆ นิยมใช้กันมาก ภายใต้ชื่อ Proplast, Teflon, Gore-Tex
  - Proplast: ทำด้วยใยคาร์บอนผสมกับ PTFE มี 3 รุ่น เริ่มจาก "Proplast I" ซึ่งมีสีดำ มองเห็นผ่านผิวหนังได้ เลยพัฒนามาเป็น "Proplast II" สีขาว ต่อมาผสมกับ Hydroxyapatite กลายเป็น "Proplast HA"
  - Teflon: มีสถานะเหลวข้น ใช้สำหรับฉีด ไม่นิยมในสาขาศัลยกรรมตกแต่ง
  - Gore-Tex (ของ WL Gore and Associates): มีประวัติการใช้งานยาวนาน ใช้กันมากจริงๆโดยเฉพาะสาขาหัวใจและเส้นโลหิต เนื้อวัสดุเป็น PTFE ที่วางตัวเหมือนใยแมงมุมขนาดเล็กมาก แทบไม่มีปฏิกิริยาจากร่างกายเลย ปัจจุบัน ผลิตมาเป็นแผ่น เป็นท่อ และล่าสุดเป็นแผ่นสำหรับใส่ในชั้นใต้ผิวหนังโดยเฉพาะ (SAM, Subcutaneous Augmentation Material)  สามารถตัดแต่งรูปร่างได้และนิ่ม

กลับไปด้านบนสุด