มีเลือดออกหลังผ่าตัด
ทำให้เกิดอาการบวมและเขียวซ้ำบริเวณโหนกแก้ม
โดยปกติแล้ว
หลังการผ่าตัดจะต้องมีเลือดทุกราย
แต่มักจะมีปริมาณไม่มาก
ร่างกายก็จะดูดซึมไปได้เอง
แต่ในกรณีที่มีเลือดออกมากและดั่งอยู่ในบริเวณโหนกแก้ม
จะต้องทำการแก้ไขโดยผ่าตัดเอาก้อนเลือดออกและหาจุดที่ทำให้เลือดออก
แล้วทำการห้ามเลือดให้เรียบร้อย
ในกรณีนี้มักเกิดขึ้นน้อยมากหากทำผ่าตัดอย่างระมัดระวัง
การติดเชื้อ
มักมีอาการเจ็บปวด
บวมขึ้นกว่าเดิม แดง
และร้อน
ซึ่งอาจเกิดในระยะแรกหลังการผ่าตัดใหม่ๆ
หรือเกิดภายหลังการผ่าตัดไปนานแล้วก็ได้
ในกรณีที่เกิดการติดเชื้อขึ้นแล้ว
แนวทางการรักษาที่
ถูกต้องจะต้องนำเอาซิลิโคนที่ใช้เสริมโหนกแก้มออก
พร้อมกับให้ยาปฎิชีวะนะจนหายเป็นปกติแล้ว
หลังจากนั้นประมาณ 3 เดือน
จึงกลับมาทำผ่าตัดเสริมโหนกแก้มใหม่ได้อีก
ชาบริเวณโหนกแก้มและริมฝีปากบน
เนื่องจากบริเวณโหนกแก้มที่เลาะเป็นช่องเพื่อวางซิลิโคนนั้น
จะมีเส้นประสาทรับความรู้สึกของบริเวณโหนกแก้ม
และริมฝีปากบน
การทำผ่าตัดจะต้องระมัดระวัง
ขณะที่เลาะต้องไม่ให้เกิดอันตรายต่อเส้นประสาทดังกล่าว
และขณะที่วางซิลิโคนก็จะต้องไม่กดทับเส้นประสาทเช่นกัน
การป้องกันสามารถหลีกเลี่ยงปัญหาการชาได้
และหากการเลาะทำให้เส้นประสาทขาดหรือชอกช้ำมาก
ความรู้สึกที่กลับคืนมาอาจไม่เหมือนปกติก็ได้
การเคลื่อนที่ของซิลิโคน
เนื่องจากซิลิโคนไม่ยึดติดกันเนื้อเยื่อของมนุษย์
ดังนั้นหากใส่ซิลิโคนที่มีขนาดหรือรูปร่างที่ไม่เหมาะสม
ก็อาจจะทำให้ซิลิโคนเกิดการเคลื่อนที่ขึ้นได้
และจะทำให้รูปร่างของโหนกแก้มผิดรูปร่างไป
การทำผ่าตัดแก้ไขใหม่มักจะได้ผล
ปัญหาที่กล่าวมาข้างต้น
เป็นปัญหาส่วนหนึ่งที่พบได้บ่อยในการทำผ่าตัดโหนกแก้ม
ส่วนมากจะเป็นปัญหาที่ป้องกันได้
หากผู้ทำการผ่าตัดมีความรู้ความชำนาญเพียงพอ
หรือแม้กระทั่งเกิดปัญหาขึ้นแล้ว
การแก้ไขก็มักจะได้ผลดี
อย่างไรก็ตามก่อนที่จะตัดสินใจเข้ารับการผ่าตัด
ควรจะศึกษาถึงรายละเอียดข้อดี
ข้อเสีย
ของการทำผ่าตัดกับศัลยแพทย์ตกแต่ง
ซึ่งเป็นผู้ที่มีความรู้ความชำนาญเกี่ยวกับการทำศัลยกรรมตกแต่งในด้านต่างๆ
โดยตรง
กลับไปด้านบน |