|
|
วิธีการรักษาที่ได้ผล
- ใช้ยาทาภายนอก ได้แก่
aluminum chloride เช่น Drysol (20% aluminum chloride
ราคา $30), Izarac (6% aluminum chloride)
มักขายในรูปของน้ำสำหรับใช้ก่อนนอน
หยดที่บริเวณที่มีปัญหา
ตื่นเช้าล้างออก
แรกๆอาจใช้ทุกวัน
เมื่อดีขึ้น
ค่อยลดลงเหลือสัปดาห์ละครั้ง
ราคาขวดละประมาณ 1,200 บาท มี
35 ซีซี
ซึ่งใช้ได้เป็นเดือนๆ
เช่น 6-8 เดือน
ปัญหาที่อาจจะเกิดคือ
ตัวยาจะไประคายเคืองผิวหนังได้
ผิวหนังบริเวณที่จะทายาจึงต้องไม่เป็นแผล
และพยายามใช้ยาให้น้อยที่สุดเท่าที่จำเป็น
ที่สำคัญคือ
อาการไม่หายขาดถาวร
- ฉีดด้วยยา BOTOX - Botulinum toxin
หรือ Botox
เป็นผลิตภัณฑ์ที่สกัดมาจากเชื้อแบคทีเรียที่ชื่อ
Clostridium Botulinium
คือเป็นพิษของเชื้อโรคนั่นเอง
วิธีการใช้คือ
ใส่ในเข็มฉีดยา
ฉีดเข้าใต้ผิวหนังบริเวณที่มีเหงื่อออกมาก
ไม่ควรจะถี่กว่าทุก 3
เดือน
เนื่องจากตัวยาเป็นพิษของแบคทีเรีย
มีอันตรายได้หากใช้ไม่ถูกต้อง
อย.ไทยก็ยังไม่ได้รับยานี้เข้ามา
ในยุโรปและอเมริกามีการใช้กันมาก
ได้ผลดีมากกว่า 70-80%
ของผู้ป่วย
แต่ก็ไม่หายขาด
ปัญหาหลักอีกอย่างคือ
ราคาแพงมาก
ที่มีขายขนาด 100 ยูนิต
ราคาอยู่ที่ราวๆ $390
ต่อกระปุก หรือกว่า 17,000
บาท
ใช้แค่สองถึงสามครั้งก็หมดกระปุก
- การดูดไขมัน -
ใช้ได้กับผู้ที่เหงื่อออกมากจากรักแร้
ได้ผลดี 70-90% แต่ก็มีข้อเสียและอันตรายจากการดูดไขมันได้
- การผ่าตัดเส้นประสาท -
วิธีนี้ได้ผลดีมากในการลดเหงื่อออกแบบถาวรแต่ไม่ได้รับความนิยม
เพราะต้องผ่าตัดเข้าไปในช่องอก
เพื่อหาเส้นประสาท
แล้วทำลายเส้นประสาทส่วนนั้น
มีโอกาสเกิดปัญหาต่างๆได้มาก
แม้ว่าปัจจุบันจะมีการนำวิธีการส่องกล้องมาใช้แทนการผ่าตัดเปิดหน้าอกอย่างในอดีต
แนะนำเฉพาะผู้ที่มากจริงๆ
รักษามาแล้วทุกวิธีก็ไม่ได้ผล
และต้องศัลยแพทย์ช่องทรวงอกที่สนใจทำเรื่องนี้จึงจะได้ผล
วิธีการรักษาที่ไม่ค่อยได้ผล
Tap water iontophoresis -
ใช้กับมือหรือเท้าที่มีเหงื่อออกมาก
จุ่มในน้ำที่มีกระแสไฟฟ้าอ่อนๆ
วิธีนี้ใช้เวลามาก
เครื่องมือยุ่งยาก
ไม่ได้ผลดีนัก
ใช้กับรักแร้ไม่ได้
กลับไปด้านบนสุด |
|
ยาที่ได้รับความนิยมสูงสุดในการรักษา
hyperhidrosis
เป็นของบริษัทยา Person & Covey
มีในขนาด 35, 37.5, 60 ซีซี
|